เว็บไซต์สำหรับธุรกิจโรงแรมควรมีฟีเจอร์อะไรบ้าง?

ทำไมธุรกิจโรงแรมควรมีเว็บไซต์?

การมีเว็บไซต์โรงแรมไม่ได้เป็นเพียงการมี “พื้นที่ออนไลน์” สำหรับโชว์ภาพที่พักเท่านั้น แต่คือหนึ่งในเครื่องมือทางธุรกิจที่ทรงพลังที่สุดในการสร้างยอดจองโดยตรง (Direct Booking) และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ในสายตานักท่องเที่ยวทั่วโลก พฤติกรรมของนักเดินทางส่วนใหญ่เริ่มต้นจากการค้นหาที่พักบน Google หรือผ่านเครื่องมือค้นหาอื่น ๆ การที่โรงแรมมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองจึงเปรียบเสมือนการมีจุดยืนบนโลกดิจิทัล ที่ช่วยให้ลูกค้าพบคุณก่อนคู่แข่ง อีกทั้งยังสามารถนำเสนอภาพลักษณ์ บริการ และประสบการณ์การเข้าพักได้อย่างครบถ้วนในแบบที่แพลตฟอร์ม OTA (Online Travel Agency) ทำไม่ได้

เว็บไซต์โรงแรมที่ดีควรถ่ายทอดเอกลักษณ์ของแบรนด์ผ่านดีไซน์และเนื้อหาที่สื่อสารอย่างมืออาชีพ ตั้งแต่ภาพบรรยากาศห้องพัก ฟังก์ชันการจองที่ใช้งานง่าย ไปจนถึงรีวิวจากผู้เข้าพักจริง ทุกองค์ประกอบล้วนมีส่วนช่วยในการสร้างความไว้วางใจและกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจจองห้องพักได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าคุณจะเป็นโรงแรมบูติกขนาดเล็กใจกลางเมือง รีสอร์ทริมทะเลที่เน้นความเป็นส่วนตัว หรือพูลวิลล่าระดับไฮเอนด์ เว็บไซต์ที่ออกแบบอย่างมีกลยุทธ์จะช่วยขยายฐานลูกค้า สื่อสารเรื่องราวของแบรนด์ และเปลี่ยนผู้เยี่ยมชมให้กลายเป็นแขกผู้เข้าพักได้จริง

และหากคุณกำลังวางแผนสร้างเว็บไซต์โรงแรมใหม่ ทำการตลาดโรงแรมหรือปรับปรุงของเดิมให้ดียิ่งขึ้น ต่อไปนี้คือองค์ประกอบสำคัญที่เว็บไซต์โรงแรมทุกแห่งควรมี เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้เข้าชมและเพิ่มประสิทธิภาพในการจองห้องพักของคุณ

1. รูปภาพสวยคมชัด ที่บอกเล่าบรรยากาศได้

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ “เลือกที่พักด้วยสายตา” หากเว็บไซต์ของคุณมีภาพถ่ายที่สวยงาม มีองค์ประกอบที่ครบถ้วน ก็ย่อมสร้างความสนใจและดึงดูดผู้เข้าชมให้หยุดดูและอยากจองมากยิ่งขึ้น เว็บไซต์ควรมีภาพถ่ายที่คมชัด ถ่ายทอดบรรยากาศของห้องพักแต่ละประเภท พื้นที่ส่วนกลาง เช่น ล็อบบี้ สระว่ายน้ำ ร้านอาหาร บาร์ รวมถึงภาพมุมมองจากที่พัก หรือบรรยากาศโดยรอบ เพื่อให้ผู้เข้าชมสัมผัสถึง “ประสบการณ์จริง” ที่พวกเขาจะได้รับเมื่อเข้าพัก

2. ระบบจองห้องพักที่ใช้งานง่าย

หากลูกค้าเข้าชมเว็บไซต์แล้วไม่สามารถจองห้องพักได้ภายใน 2–3 คลิก ก็มีโอกาสสูงที่พวกเขาจะเปลี่ยนใจไปเลือกจองที่อื่นทันที ระบบจองควรเรียบง่าย ใช้งานได้ทั้งบนมือถือและเดสก์ท็อป รองรับการเลือกวันที่เข้าพัก แสดงราคาต่อคืนแบบโปร่งใส พร้อมแสดงจำนวนห้องว่างแบบเรียลไทม์ และควรมีปุ่ม “จองตอนนี้” ที่ชัดเจนในทุกหน้าหลัก เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเริ่มการจองได้ทันทีโดยไม่ลังเล

3. ข้อมูลห้องพักและราคาที่ชัดเจน

ความโปร่งใสคือหัวใจสำคัญของการขายที่พักออนไลน์ เว็บไซต์ควรมีรายละเอียดของห้องพักแต่ละประเภทอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นขนาดห้อง ประเภทเตียง สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้อง การตกแต่ง รวมถึงสิ่งที่รวมอยู่ในราคาห้อง เช่น อาหารเช้า Wi-Fi หรือบริการรับส่ง เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายและรู้สึกมั่นใจในสิ่งที่จะได้รับ

4. แผนที่และข้อมูลสถานที่ตั้งชัดเจน

นักท่องเที่ยวจำนวนมากเลือกที่พักจาก “ทำเล” เว็บไซต์ควรฝังแผนที่ Google Map ที่ปักหมุดตำแหน่งที่ตั้งของโรงแรมอย่างแม่นยำ พร้อมคำอธิบายเส้นทางการเดินทางจากสนามบิน สถานีรถไฟ หรือสถานที่สำคัญใกล้เคียง และสามารถระบุจุดเด่นในพื้นที่รอบ ๆ เช่น ชายหาด ตลาด ร้านอาหาร หรือแหล่งท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้เข้าชม

5. รีวิวจากผู้เข้าพักจริง

รีวิวจากลูกค้าจริงมีอิทธิพลสูงในการสร้างความน่าเชื่อถือ เว็บไซต์ที่แสดงรีวิวหรือคำแนะนำจากแขกที่เคยเข้าพัก จะช่วยให้ผู้เยี่ยมชมหน้าใหม่รู้สึกมั่นใจและกล้าจองมากขึ้น โดยเฉพาะรีวิวที่มาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น Google, TripAdvisor หรือ Facebook พร้อมภาพประกอบหรือชื่อผู้เข้าพักจริง หากโรงแรมของคุณเพิ่งเปิดใหม่ การใส่รีวิวเพียง 2–3 รายการที่มีเนื้อหาคุณภาพก็ดึงดูดได้เช่นกัน

6. รองรับหลายภาษา เพื่อเข้าถึงลูกค้าทั่วโลก

หากโรงแรมของคุณตั้งอยู่ในพื้นที่ท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต หรือเกาะสมุย การมีเว็บไซต์ที่รองรับหลายภาษาจะช่วยเปิดโอกาสทางการตลาดอย่างมหาศาล อย่างน้อยควรรองรับภาษาไทยและภาษาอังกฤษเป็นพื้นฐาน และอาจพิจารณาเพิ่มภาษาจีน ญี่ปุ่น รัสเซีย หรือภาษาอื่น ๆ ตามกลุ่มเป้าหมายของคุณ

7. ดีไซน์ที่รองรับมือถือ (Mobile-first Design)

ทุกวันนี้กว่า 60% ของผู้ใช้ค้นหาที่พักผ่านสมาร์ตโฟน เว็บไซต์ของโรงแรมจึงจำเป็นต้องออกแบบโดยยึดแนวคิด Mobile-first คือเน้นให้แสดงผลได้ดีบนหน้าจอขนาดเล็ก มีปุ่มกดขนาดพอดี โหลดเร็ว และใช้งานง่าย แม้จะอยู่บนเครือข่ายที่ไม่เร็วมาก โครงสร้างควรเป็นแนวตั้ง อ่านง่าย มีเมนูที่สามารถย่อลง และปุ่มแชทหรือปุ่มโทรควรอยู่ในตำแหน่งที่กดได้สะดวก เว็บไซต์ที่ใช้งานได้ดีบนมือถือ จะช่วยลดอัตราการออกจากหน้าเว็บ (bounce rate) และเพิ่มโอกาสในการจองได้อย่างมีนัยสำคัญ

8. โปรโมชั่นและสิทธิพิเศษสำหรับการจองตรง

เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าจองห้องพักผ่านเว็บไซต์ของโรงแรมโดยตรง แทนที่จะใช้แพลตฟอร์ม OTA อย่าง Agoda หรือ Booking.com ควรมีข้อเสนอพิเศษเฉพาะบนเว็บไซต์ เช่น ส่วนลดเมื่อจองตรง ฟรีอาหารเช้า ฟรีอัปเกรดห้องพัก เช็คอินเร็ว หรือเช็คเอาต์ช้า เป็นต้น โปรโมชั่นเหล่านี้ควรแสดงบนหน้าแรกอย่างชัดเจน พร้อมมีปุ่ม “จองเลย” หรือ “ดูรายละเอียด” เชื่อมไปยังหน้าจองที่ใช้งานง่าย การจองตรงไม่เพียงแต่ช่วยลดค่าคอมมิชชันจาก OTA แต่ยังช่วยให้โรงแรมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้โดยตรงอีกด้วย

9. การเชื่อมต่อกับโซเชียลมีเดียและข้อมูลติดต่อครบถ้วน

ในยุคดิจิทัล โซเชียลมีเดียมีบทบาทอย่างมากในการสร้างการรับรู้และความน่าเชื่อถือให้กับโรงแรม เว็บไซต์ควรมีลิงก์ไปยัง Facebook, Instagram, LINE OA หรือแพลตฟอร์มที่โรงแรมใช้งานอยู่ และควรแสดงปุ่มติดต่อ เช่น เบอร์โทรศัพท์ อีเมล แบบฟอร์มสอบถาม หรือปุ่มแชททันที เช่น LINE Chat, Messenger หรือ WhatsApp เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้อย่างรวดเร็ว

10. ระบบ Live Chat และหน้าคำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ในบางครั้ง ลูกค้าอาจมีคำถามเพียงเล็กน้อย เช่น เวลาเช็คอิน เงื่อนไขการยกเลิก หรือมีที่จอดรถหรือไม่ หากไม่มีคำตอบในเว็บไซต์ พวกเขาอาจลังเลหรือเปลี่ยนใจไปจองที่อื่น การมีระบบ Live Chat หรือการเชื่อมต่อกับแอปแชท เช่น LINE OA จะช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถตอบคำถามลูกค้าแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ควรมีหน้า FAQ ที่รวบรวมคำถามยอดนิยมและคำตอบไว้ในที่เดียว เพื่อประหยัดเวลาและสร้างความมั่นใจในการจองมากยิ่งขึ้น

ตัวอย่างเว็บไซต์โรงแรมคุณภาพโดย DAB

หนึ่งในผลงานที่เราภาคภูมิใจคือเว็บไซต์ของ Paradise Samui รีสอร์ทพูลวิลล่าหรูบนเกาะสมุยที่เน้นความเป็นส่วนตัว เงียบสงบ และมอบประสบการณ์ระดับไฮเอนด์ให้กับผู้เข้าพักจากทั่วโลก โจทย์ของลูกค้าคือการสร้างเว็บไซต์ที่สามารถถ่ายทอดบรรยากาศความหรูหรา ความเรียบง่าย และความอบอุ่นของที่พักออกมาได้อย่างชัดเจนผ่านดีไซน์และประสบการณ์ใช้งาน

เราจึงออกแบบเว็บไซต์ที่เน้นภาพถ่ายขนาดใหญ่ ซึ่งถ่ายทอดความรู้สึกของสถานที่ได้อย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่ภาพของวิลล่าแต่ละหลัง มุมพักผ่อนส่วนตัวริมสระ ไปจนถึงบรรยากาศโดยรอบที่เงียบสงบ รายละเอียดทุกส่วนของเว็บไซต์ถูกวางโครงสร้างอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการชมภาพห้องพัก การอ่านข้อมูลบริการ หรือการส่งคำถามผ่านฟอร์ม รวมถึงมีการออกแบบให้รองรับการใช้งานผ่านมือถือทุกขนาด เพื่อรองรับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวยุคใหม่ที่มักค้นหาและจองที่พักผ่านสมาร์ตโฟน

เว็บไซต์ของ Paradise Samui ยังรองรับการแสดงผลหลายภาษา เพื่ออำนวยความสะดวกแก่แขกต่างชาติที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของทางรีสอร์ท และที่สำคัญคือการพัฒนาเว็บไซต์ให้โหลดได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ประสบการณ์ของผู้เข้าชมราบรื่นตั้งแต่หน้าแรกจนถึงการติดต่อหรือทำการจอง เว็บไซต์นี้จึงไม่ใช่แค่สวยงาม แต่ยังตอบโจทย์ธุรกิจอย่างครบถ้วน ทั้งในด้านภาพลักษณ์ ประสบการณ์ผู้ใช้ และการสร้าง Conversion จากผู้เข้าชมให้กลายเป็นแขกผู้เข้าพักตัวจริง

รีวิวอื่นๆ คลิกที่นี่

อยากให้ลูกค้าจองตรงมากขึ้น? เริ่มทำเว็บไซต์โรงแรมกับ DAB วันนี้

เราออกแบบเว็บไซต์โรงแรม รีสอร์ท และวิลล่าที่:

• โหลดไว ดูดีทั้งมือถือและเดสก์ท็อป
• รองรับการจองตรงแบบมืออาชีพ
• เพิ่มความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจคุณ
• ออกแบบได้หลายภาษา พร้อมระบบจัดการหลังบ้าน
  

สนใจปรึกษาฟรี ทักทีม Digital Agency Bangkok ได้เลย!

DAB รับทำเว็บไซต์ธุรกิจ ออกแบบเว็บไซต์และพัฒนาแอปพลิเคชั่นทุกประเภททั่วประเทศไทย 

FAQ – คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำเว็บไซต์โรงแรม

Q1: ทำไมโรงแรมต้องมีเว็บไซต์ของตัวเอง ทั้งที่มีหน้าใน Agoda หรือ Booking.com แล้ว?
A1: เว็บไซต์โรงแรมช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและควบคุมภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้เต็มที่ อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าจองตรงโดยไม่ต้องเสียค่าคอมมิชชันให้ OTA (Online Travel Agency) พร้อมเพิ่มโอกาสในการสื่อสารกับลูกค้าโดยตรงผ่านช่องทางของโรงแรมเอง

Q2: เว็บไซต์โรงแรมควรมีอะไรบ้างเพื่อดึงดูดให้คนจองห้องพัก?
A2: เว็บไซต์ควรมีภาพถ่ายที่สวยคมชัด ระบบจองที่ใช้งานง่าย รายละเอียดห้องพักครบถ้วน แผนที่ตั้งชัดเจน รีวิวจากลูกค้าจริง โปรโมชั่นจองตรง และข้อมูลติดต่อที่เข้าถึงง่าย เพื่อให้ผู้เข้าชมตัดสินใจจองได้อย่างมั่นใจ

Q3: ระบบจองห้องพักบนเว็บไซต์จำเป็นไหม?
A3: จำเป็นมาก เพราะลูกค้าคาดหวังความสะดวกและความรวดเร็ว หากเว็บไซต์ไม่มีระบบจองออนไลน์ที่ใช้งานง่าย ลูกค้าอาจเปลี่ยนไปจองกับคู่แข่งทันที

Q4: เว็บไซต์โรงแรมควรรองรับหลายภาษาหรือไม่?
A4: ควรอย่างยิ่ง โดยเฉพาะโรงแรมที่มีลูกค้าต่างชาติ เว็บไซต์หลายภาษาช่วยเพิ่มโอกาสทางการตลาดและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับแขกจากทั่วโลก

Q5: ทำไมต้องออกแบบเว็บไซต์แบบ Mobile-first?
A5: ปัจจุบันผู้เข้าชมกว่า 60% ใช้งานผ่านสมาร์ตโฟน การออกแบบเว็บไซต์ให้เหมาะกับมือถือจะช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงข้อมูลได้สะดวก โหลดเร็ว และลดอัตราการออกจากหน้าเว็บ (Bounce Rate)

Q6: เว็บไซต์โรงแรมควรมีระบบรีวิวลูกค้าหรือไม่?
A6: ควรมีอย่างยิ่ง เพราะรีวิวจากผู้เข้าพักจริงเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่น เว็บไซต์ที่มีรีวิวจากแขกจริงหรือแหล่งที่เชื่อถือได้อย่าง Google หรือ TripAdvisor จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการจองมากขึ้น

Q7: หากต้องการให้ลูกค้าจองตรงมากขึ้น ควรทำอย่างไร?
A7: ใช้กลยุทธ์โปรโมชั่นเฉพาะบนเว็บไซต์ เช่น ส่วนลดพิเศษ ฟรีอาหารเช้า ฟรีอัปเกรดห้อง หรือสิทธิ์เช็คเอาต์ช้า เพื่อจูงใจให้ลูกค้าจองผ่านเว็บไซต์โดยตรงแทนที่จะไปใช้ OTA

Q8: เว็บไซต์โรงแรมควรเชื่อมต่อกับโซเชียลมีเดียไหม?
A8: ควรเชื่อมต่อกับช่องทางหลัก เช่น Facebook, Instagram และ LINE OA เพื่อให้ลูกค้าติดตามข่าวสาร โปรโมชั่น หรือสอบถามข้อมูลได้ง่ายขึ้น ทั้งยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์อีกด้วย

Q9: หากโรงแรมต้องการเว็บไซต์ที่ดูมืออาชีพ ควรเริ่มต้นอย่างไร?
A9: ควรเริ่มจากการวิเคราะห์กลุ่มลูกค้า ออกแบบดีไซน์ที่สะท้อนเอกลักษณ์ของโรงแรม และพัฒนาเว็บไซต์ให้โหลดเร็ว รองรับการจองและหลายภาษา หากต้องการทีมมืออาชีพ Digital Agency Bangkok พร้อมช่วยออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์โรงแรมครบวงจร

Q10: ทำไมควรเลือก Digital Agency Bangkok ทำเว็บไซต์โรงแรม?
A10: DAB มีประสบการณ์ด้านการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์โรงแรม รีสอร์ท และพูลวิลล่ามากมาย เช่น Paradise Samui โดยเน้นทั้งดีไซน์ที่สวยงาม ประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดี และฟังก์ชันการจองที่ตอบโจทย์ธุรกิจ ช่วยให้โรงแรมของคุณสร้างยอดจองและความน่าเชื่อถือได้จริง