หลัก E-A-T คืออะไร สำคัญอย่างไรต่อ SEO

 

บทนำ

ในการทำ SEO (Search Engine Optimization) ปัจจัยสำคัญไม่ได้มีเพียงแค่การใส่คีย์เวิร์ดหรือการสร้าง Backlink เท่านั้น แต่ยังมีหลักการหนึ่งที่ Google ให้ความสำคัญอย่างมาก นั่นคือ E-A-T ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้คุณภาพของเนื้อหาและเว็บไซต์

การทำตามหลัก E-A-T (Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness) จะช่วยให้ Google มองว่าเว็บไซต์ของคุณเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ ส่งผลให้:

  • เว็บไซต์มีโอกาสติดอันดับสูงขึ้น
  • ผู้ใช้งานเกิดความไว้วางใจและเข้าชมเว็บไซต์มากขึ้น
  • ธุรกิจสามารถสร้างฐานลูกค้าที่มั่นคงได้ในระยะยาว

What is E A T

หลัก E-A-T คืออะไร?

E-A-T ย่อมาจาก:

1. E = Expertise (ความเชี่ยวชาญ)

ความเชี่ยวชาญหมายถึงเนื้อหาที่สร้างโดยผู้มีความรู้หรือประสบการณ์จริง ตัวอย่างเช่น:

  • บทความสุขภาพเขียนโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์
  • บทความด้านการเงิน เขียนโดยนักวิเคราะห์หรือผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน

การแสดงความเชี่ยวชาญช่วยให้ผู้ใช้งานมั่นใจว่าข้อมูลที่อ่านมีความถูกต้อง และ Google จะให้คะแนนเนื้อหาเหล่านี้สูงกว่า

2. A = Authoritativeness (ความน่าเชื่อถือ)

ความน่าเชื่อถือหมายถึงการเป็นแหล่งข้อมูลที่ได้รับการยอมรับ ทั้งจากผู้ใช้งานและเว็บไซต์อื่น ตัวอย่างเช่น:

  • เว็บไซต์ถูกอ้างอิงโดยสถาบันหรือองค์กรที่มีชื่อเสียง
  • มีผู้เชี่ยวชาญหรือ influencer ในวงการแนะนำหรือเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์

ความน่าเชื่อถือช่วยเพิ่ม Domain Authority และทำให้เว็บไซต์โดดเด่นเหนือคู่แข่ง

3. T = Trustworthiness (ความน่าไว้วางใจ)

ความน่าไว้วางใจหมายถึงความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และปลอดภัย ตัวอย่างเช่น:

  • เว็บไซต์ใช้ HTTPS และมีข้อมูลการติดต่อชัดเจน
  • มีนโยบายความเป็นส่วนตัวและข้อกำหนดการใช้งาน
  • เนื้อหาไม่หลอกลวงและมีการอ้างอิงแหล่งที่มาชัดเจน

ความน่าไว้วางใจช่วยให้ผู้ใช้งานกลับมาใช้งานซ้ำ และลดอัตราการตีกลับ (Bounce Rate) ซึ่งส่งผลต่อ SEO โดยตรง

ทำไม E-A-T จึงสำคัญต่อ SEO?

  1. Google ใช้เป็นเกณฑ์ประเมินคุณภาพเนื้อหา
    Google Algorithm โดยเฉพาะ Quality Rater Guidelines ให้ความสำคัญกับ E-A-T เป็นหลักสำหรับบทความที่เกี่ยวข้องกับ YMYL (Your Money Your Life) เช่น สุขภาพ การเงิน กฎหมาย
  2. สร้างความไว้วางใจจากผู้ใช้งาน
    ผู้ใช้งานมักเลือกอ่านข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ การมี E-A-T ที่ดีช่วยให้ผู้ชมอยู่บนเว็บไซต์นานขึ้น เพิ่มโอกาสแปลงผู้ชมเป็นลูกค้า
  3. ช่วยปรับปรุงอันดับในระยะยาว
    เว็บไซต์ที่มี E-A-T ดีจะมีโอกาสติดอันดับสูงกว่าเว็บไซต์คู่แข่งที่ขาดความน่าเชื่อถือ แม้ว่าคีย์เวิร์ดและ Backlink จะเท่าเดิม
  4. เหมาะกับธุรกิจ YMYL
    สำหรับเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ การเงิน หรือกฎหมาย Google จะตรวจสอบ E-A-T อย่างเข้มงวด หากไม่สอดคล้อง อันดับ SEO อาจต่ำลงอย่างรวดเร็ว

ตัวอย่างการนำ E-A-T มาปรับใช้กับเว็บไซต์

  • แสดงโปรไฟล์ผู้เขียน: ใส่ชื่อ, ภูมิหลังการศึกษา, ประสบการณ์ หรือใบรับรอง
  • อ้างอิงข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้: ใช้สถิติ ข้อมูลวิชาการ หรือรายงานจากองค์กรที่น่าเชื่อถือ
  • สร้าง Backlink คุณภาพสูง: ให้เว็บไซต์อื่นที่มี Authority สูงลิงก์มาที่บทความของคุณ
  • ใช้ HTTPS และมีข้อมูลติดต่อชัดเจน: เพิ่มความมั่นใจให้ผู้ใช้งาน
  • สร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์และอัปเดตสม่ำเสมอ: Google ชอบเนื้อหาที่สดใหม่และตอบโจทย์ผู้ใช้งาน

ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำ E-A-T

1.เพิ่มความเชื่อถือและความน่าไว้วางใจของเว็บไซต์

การมีเนื้อหาที่เขียนโดยผู้เชี่ยวชาญ มีการอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ และโปร่งใสในการนำเสนอ จะทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกมั่นใจในเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น ไม่ว่าผู้เข้าชมจะมาเพื่ออ่านบทความ สุขภาพ การเงิน หรือบริการต่าง ๆ พวกเขาจะเชื่อถือข้อมูลบนเว็บไซต์ ทำให้สร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับผู้ใช้งานได้

2.อันดับ SEO ดีขึ้นและคงที่ในระยะยาว

Google ให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ที่มี Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness เพราะถือว่าเป็นแหล่งข้อมูลคุณภาพ การปรับเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับหลัก E-A-T จะช่วยให้ Google มองว่าเว็บไซต์มีความน่าเชื่อถือ ส่งผลให้อันดับการค้นหาไม่เพียงแต่ดีขึ้น แต่ยังคงที่และลดความเสี่ยงที่จะตกอันดับเมื่อมีการอัปเดตอัลกอริทึม

3.ผู้ใช้งานเข้าชมเว็บไซต์นานขึ้น ลด Bounce Rate

เนื้อหาที่มีคุณภาพและเชื่อถือได้ ทำให้ผู้ใช้งานสนใจอ่านบทความจนจบ หรือคลิกไปยังหน้าอื่น ๆ บนเว็บไซต์ ทำให้ เวลาอยู่บนเว็บไซต์ (Dwell Time) เพิ่มขึ้น และอัตราการออกจากเว็บไซต์ทันที (Bounce Rate) ลดลง ซึ่งเป็นสัญญาณบวกที่ Google ใช้ประเมินคุณภาพเว็บไซต์

4.ช่วยสร้างแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือในสายตาผู้ใช้งาน

เว็บไซต์ที่สอดคล้องกับหลัก E-A-T ไม่ใช่เพียงแค่ติดอันดับดี แต่ยังสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่น่าเชื่อถือและเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้น ๆ ผู้ใช้งานจะจดจำแบรนด์และมีแนวโน้มกลับมาใช้บริการหรือแชร์เนื้อหาให้คนอื่น ทำให้แบรนด์เติบโตทั้งในแง่ความนิยมและการตลาดออนไลน์

สรุป

หลัก E-A-T (Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness) เป็นหัวใจสำคัญของ SEO สมัยใหม่ โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลสำคัญต่อผู้ใช้งาน การสร้างเนื้อหาที่สอดคล้องกับ E-A-T จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับสูงขึ้น สร้างความไว้วางใจ และเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจออนไลน์

บริการทำ SEO ชั้นนำโดย Digital Agency Bangkok

ที่ Digital Agency Bangkok เรามีบริการ ทำ SEO ชั้นนำ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เว็บไซต์ของธุรกิจทุกขนาดโดดเด่นบนโลกออนไลน์ ไม่เพียงแต่ทำให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับบน Google แต่ยังเพิ่มการมองเห็นบนเครื่องมือค้นหาอื่น ๆ ด้วย ทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเราจะวิเคราะห์เว็บไซต์อย่างละเอียด วางกลยุทธ์ SEO แบบครบวงจร ปรับปรุงเนื้อหาให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย และจัดการ Backlink คุณภาพสูง นอกจากนี้ เรายังให้ความสำคัญกับหลัก E-A-T (Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness) เพื่อสร้างความเชื่อถือและความน่าไว้วางใจให้กับผู้ใช้งาน ตั้งแต่การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ การออกแบบโครงสร้างเว็บไซต์ที่เป็นมิตรต่อ SEO ไปจนถึงการติดตามผลและปรับปรุงอันดับคีย์เวิร์ดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณยังคงรักษาฐานลูกค้า เพิ่มทราฟฟิก และเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว

สนใจรับคำปรึกษาฟรีหรือประเมินเว็บไซต์ ติดต่อได้ที่

โทร 098-7655-243 หรือ 098-7655-701

อีเมล [email protected]

Line Whatsapp