คู่มือเลือกกลุ่มเป้าหมาย Facebook Ads สำหรับธุรกิจ eCommerce ในปี2025

บทนำ

หลายครั้งที่ผู้ประกอบการยิงโฆษณา Facebook Ads ให้ร้านค้าออนไลน์ของตัวเอง แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามคาด โฆษณาถูกเห็นน้อย หรือแม้แต่ยอดขายก็ไม่เติบโตตามที่หวัง ปัญหานี้ไม่ได้เกิดจากงบประมาณน้อยหรือรูปภาพโฆษณาที่ไม่สวยเพียงอย่างเดียว แต่ส่วนใหญ่เกิดจาก การตั้ง Target กลุ่มเป้าหมายไม่ตรงกับลูกค้าจริง

สำหรับธุรกิจ eCommerce การตั้ง Target ให้ถูกต้องคือหัวใจสำคัญของความสำเร็จ เพราะยิ่งโฆษณาเข้าถึงคนที่สนใจสินค้าจริง ๆ มากเท่าไร ยอดขายและ engagement ก็จะยิ่งสูงขึ้น การเลือก Target ที่แม่นยำไม่เพียงช่วยประหยัดงบโฆษณา แต่ยังสร้างความน่าเชื่อถือให้แบรนด์และเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าอยากซื้อซ้ำ

บทความนี้จะแนะนำ คู่มือการตั้ง Target Facebook Ads สำหรับธุรกิจ eCommerce แบบมือโปร ครอบคลุมตั้งแต่การเข้าใจประเภท Audience การเลือก Core, Custom และ Lookalike Audience ไปจนถึงเทคนิคเจาะกลุ่มลูกค้าแบบที่นักการตลาดมืออาชีพใช้ พร้อมตัวอย่างการตั้งค่าและเคล็ดลับที่สามารถทำตามได้จริง

ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มยิง Ads หรือเคยลองหลายครั้งแต่ยังไม่ได้ผล Digital Agency Bangkok เอเจนซี่การตลาดประสบการณ์มากกว่า 10ปี จะช่วยให้คุณ ตั้ง Target ถูกกลุ่ม ลูกค้าเห็นโฆษณา และยอดขายเพิ่มขึ้นจริง

what-is-target-audience-th

การตั้งกลุ่มเป้าหมาย (Target Audience) คืออะไร?

การตั้งกลุ่มเป้าหมาย หรือ Target Audience คือการกำหนดว่าโฆษณาของคุณควรไปปรากฏกับใคร ไม่ใช่ยิงแบบสุ่มทุกคนบน Facebook แต่เป็นการเลือกกลุ่มคนที่ มีโอกาสสนใจสินค้าหรือบริการของคุณจริง ๆ

ตัวอย่างเช่น หากคุณขายรองเท้าผ้าใบสำหรับผู้หญิงอายุ 20–35 ปี การตั้งกลุ่มเป้าหมายจะช่วยให้โฆษณาไปปรากฏกับผู้หญิงในช่วงอายุดังกล่าว และอาจสนใจกีฬา แฟชั่น หรือสุขภาพ แทนที่จะไปแสดงกับคนทุกเพศทุกวัย ซึ่งโฆษณาจะเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์

นอกจากนี้ การตั้งกลุ่มเป้าหมายยังช่วยให้คุณ ควบคุมงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะ Facebook จะส่งโฆษณาไปให้กลุ่มคนที่มีแนวโน้มตอบสนองสูงสุด อีกทั้งยังช่วยเพิ่ม engagement และยอดขาย ให้ธุรกิจของคุณอย่างตรงจุด

สรุปง่าย ๆ คือ การตั้ง Target Audience คือ การชี้ชัดว่าใครคือคนที่เราต้องการให้เห็นโฆษณา เพื่อให้ทุกบาททุกสตางค์ที่จ่ายไปคุ้มค่า และผลลัพธ์โฆษณาตรงตามเป้าหมายธุรกิจ

 

ทำไมการตั้ง Target จึงสำคัญสำหรับธุรกิจ eCommerce

สำหรับธุรกิจ eCommerce การยิงโฆษณาแบบสุ่มไปยังทุกคนไม่ใช่วิธีที่ได้ผล เพราะผู้คนบน Facebook มีความสนใจและพฤติกรรมที่แตกต่างกัน การตั้ง Target Audience ให้แม่นยำจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เมื่อคุณตั้ง Target ถูกกลุ่ม โฆษณาของคุณจะไปปรากฏกับคนที่ มีโอกาสสนใจสินค้าและซื้อจริง ๆ ซึ่งช่วยให้เกิด Engagement สูงขึ้น เช่น การกดไลก์ แชร์ หรือคลิกเข้าไปดูสินค้าบนเว็บไซต์ นั่นหมายถึงคุณใช้งบโฆษณาอย่างคุ้มค่า และเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขาย

และการตั้ง Target ยังช่วยให้คุณเข้าใจลูกค้ามากขึ้น คุณจะรู้ว่าใครคือคนที่สนใจสินค้าของคุณมากที่สุด อายุ เพศ ความสนใจ พฤติกรรมการซื้อ และความถี่ในการเข้าชมเว็บไซต์ ข้อมูลเหล่านี้ไม่เพียงช่วยให้โฆษณาตรงจุด แต่ยังทำให้คุณ วางแผนโปรโมชั่นและแคมเปญในอนาคตได้แม่นยำ

การตั้ง Target Audience จึงเป็น เครื่องมือสำคัญที่ทำให้ธุรกิจ eCommerce ใช้งบโฆษณาอย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มยอดขาย และสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างแท้จริง

 

ประเภทของ Target Audience บน Facebook Ads

การเลือก Target Audience เป็นหัวใจสำคัญของการยิงโฆษณาให้ตรงกลุ่ม สำหรับธุรกิจ eCommerce Facebook มีตัวเลือก Audience หลัก ๆ อยู่ 3 แบบ ที่คุณควรรู้

1. Core Audience

Core Audience คือกลุ่มเป้าหมายพื้นฐานที่คุณสามารถกำหนดได้เอง เช่น

  • อายุและเพศ: เลือกช่วงอายุหรือเพศที่เหมาะกับสินค้าของคุณ
  • พื้นที่: เลือกประเทศ เมือง หรือระยะทางรอบร้าน
  • ความสนใจ (Interests): เช่น คนที่สนใจแฟชั่น กีฬา หรือเทคโนโลยี
  • พฤติกรรม (Behaviors): เช่น คนที่ชอบช็อปปิ้งออนไลน์ หรือคนที่ใช้สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด

การตั้ง Core Audience ช่วยให้โฆษณาของคุณเข้าถึงคนที่มีแนวโน้มสนใจสินค้าของคุณมากที่สุด

2. Custom Audience

Custom Audience คือกลุ่มคนที่ มีความสัมพันธ์กับธุรกิจคุณอยู่แล้ว เช่น

  • ลูกค้าที่เคยซื้อสินค้าของคุณ
  • คนที่เคยเข้าชมเว็บไซต์หรือดูสินค้าในร้านของคุณ
  • คนที่เคยกดไลก์ คอมเมนต์ หรือแชร์โพสต์บนเพจของคุณ

การใช้ Custom Audience จะช่วยให้คุณทำ Retargeting ให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ หรือเพิ่มโอกาสให้คนที่เคยสนใจกลายเป็นลูกค้าจริง

3. Lookalike Audience

Lookalike Audience คือกลุ่มผู้ใช้งานที่ มีลักษณะคล้ายกับลูกค้าปัจจุบันของคุณ

  • Facebook จะวิเคราะห์พฤติกรรมและความสนใจของลูกค้าจริง แล้วสร้างกลุ่มคนใหม่ที่มีแนวโน้มสนใจสินค้าเหมือนกัน
  • วิธีนี้ช่วยคุณขยายฐานลูกค้าได้โดยไม่ต้องเดา และเพิ่มโอกาสให้โฆษณาเข้าถึงคนใหม่ที่มีคุณภาพ

 

ขั้นตอนการตั้ง Target Facebook Ads สำหรับธุรกิจ eCommerce

Step 1: เข้า Ads Manager และสร้างแคมเปญใหม่

  • เปิด Facebook Ads Manager → คลิก Create เพื่อสร้างแคมเปญใหม่
  • เลือก Objective ที่ตรงกับเป้าหมายธุรกิจ เช่น Conversions, Traffic, หรือ Catalog Sales

Step1-Create Campaign by DAB

Step 2: ตั้งค่า Campaign และ Budget

  • ตั้งชื่อแคมเปญให้อ่านง่าย เช่น “Shoes_Conversion_Target20-35”
  • กำหนด Budget แบบ Daily หรือ Lifetime

 

Step 2 Set-Budget-by-DAB

Step 3: เลือก Target Audience

  • Core Audience: กำหนดอายุ, เพศ, พื้นที่, ความสนใจ, และพฤติกรรม
  • Custom Audience: เลือกกลุ่มลูกค้าเก่า, คนที่เคยเข้าชมเว็บไซต์, หรือผู้ที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับเพจ
  • Lookalike Audience: เลือกแหล่งข้อมูลเช่นฐานลูกค้าเดิม แล้วสร้างกลุ่ม Lookalike

Set-core-target-by-DAB

Step 4: กำหนด Placement

  • เลือก Automatic Placement เพื่อให้ Facebook จัดสรรตำแหน่งโฆษณาให้เหมาะสม หรือ
  • เลือก Manual Placement เพื่อกำหนดเอง เช่น Feed, Stories, Marketplace

 

Created-Ads-and-check-by-DAB

Step 5: สร้าง Ads และตรวจสอบ

  • ใส่รูปภาพ/วิดีโอ, ข้อความ, Call-to-Action ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
  • ตรวจสอบ Preview เพื่อดูว่าผู้ใช้จะเห็นโฆษณาอย่างไร

ads-CTA-check-by-DAB

Step 6: ติดตามผลและปรับปรุง Target

  • หลังจากโฆษณาเริ่มทำงาน ให้ตรวจสอบ Performance เช่น Reach, CTR, Conversion
  • ปรับ Audience หรือ Creative ตามผลลัพธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

Monitor and Optimize Targeting

ข้อควรระวังและข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง

  1. เลือก Target กว้างหรือแคบเกินไป
    • Target กว้างเกินไป = โฆษณาเข้าถึงคนที่ไม่สนใจ ทำให้ Engagement ต่ำและงบเสียเปล่า
    • Target แคบเกินไป = โฆษณาเข้าถึงคนไม่เพียงพอ ทำให้โฆษณาไม่เกิดผล
  2. ไม่เช็ค Custom Audience ซ้ำ
    • การสร้าง Custom Audience ใหม่โดยไม่ตรวจสอบฐานเดิม อาจทำให้กลุ่มซ้ำซ้อน
    • ผลลัพธ์: โฆษณาอาจยิงซ้ำไปยังคนเดิมบ่อยเกินไป เสียงบประมาณ
  3. ใช้ Interests หรือ Behavior ที่ไม่เกี่ยวข้องกับสินค้า
    • การเลือกความสนใจหรือพฤติกรรมที่ไม่ตรงกับสินค้า = ลดประสิทธิภาพโฆษณา
    • ตัวอย่าง: ยิง Ads รองเท้าแฟชั่นให้กับคนที่สนใจอุปกรณ์ตกปลา = ไม่ตรงกลุ่ม
  4. ไม่ทดสอบหลายกลุ่ม (A/B Testing)
    • ยิงโฆษณากลุ่มเดียวโดยไม่ทดสอบ = ไม่รู้ว่ากลุ่มไหนทำงานดีที่สุด
  5. ไม่ติดตาม Performance อย่างสม่ำเสมอ
    • ปล่อยโฆษณาให้ทำงานโดยไม่ดูผลลัพธ์ = งบเสียเปล่า และอาจพลาดโอกาสปรับปรุง
  6. ละเลย Retargeting
    • คนที่เคยเข้าชมเว็บไซต์หรือเพจของคุณ = ลูกค้าคุณภาพสูง
    • ไม่ทำ Retargeting = พลาดโอกาสเพิ่มยอดขายจากลูกค้าที่สนใจอยู่แล้ว

สรุปเคล็ดลับมือโปรในการตั้ง Target Facebook Ads

  • ทำ A/B Testing กับหลาย Target Audience
  • ใช้ Retargeting กับลูกค้าที่เคยมีปฏิสัมพันธ์
  • ปรับ Target ตาม พฤติกรรมและเทรนด์ใหม่
  • ขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ด้วย Lookalike Audience
  • เลือก เวลาที่เหมาะสม ในการยิง Ads
  • สร้าง คอนเทนต์ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย
  • ติดตามผลและปรับปรุง อย่างต่อเนื่อง

สรุป

การตั้ง Target Audience สำหรับโฆษณา Facebook ไม่ใช่เรื่องแค่เทคนิค แต่เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้ธุรกิจ eCommerce ของคุณเข้าถึงลูกค้าที่สนใจจริง ๆ การเลือกกลุ่มเป้าหมายอย่างแม่นยำจะทำให้โฆษณาไม่เสียเปล่า งบประมาณถูกใช้อย่างคุ้มค่า และลูกค้าเห็นสินค้าของคุณในเวลาที่เหมาะสม การเข้าใจ Core, Custom และ Lookalike Audience ทำให้คุณสามารถสร้างโฆษณาที่ตอบโจทย์ทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ พร้อมทั้งสามารถปรับกลยุทธ์ Retargeting และ A/B Testing เพื่อเพิ่มโอกาสขายและสร้าง engagement ที่แท้จริง

สิ่งสำคัญคือการติดตามผลและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกแคมเปญโฆษณาไม่เพียงเข้าถึงลูกค้า แต่ยังสร้างความน่าเชื่อถือและความสัมพันธ์ที่ยาวนานกับผู้ซื้อ การตั้ง Target อย่างถูกต้องจึงเป็นหัวใจของความสำเร็จและผลลัพธ์ที่ชัดเจนสำหรับธุรกิจ eCommerce

 

FAQ – คำถามที่พบบ่อย

Q1: ต้องตั้ง Target Audience ทุกครั้งที่ยิงโฆษณาไหม?
A: ใช่ค่ะ การตั้ง Target Audience ทุกครั้งช่วยให้โฆษณาไปถึงกลุ่มคนที่สนใจจริง ๆ ทำให้ผลลัพธ์คุ้มค่าและเพิ่มโอกาสขาย

Q2: Core, Custom และ Lookalike Audience แตกต่างกันอย่างไร?
A: Core Audience คือกลุ่มพื้นฐานที่คุณกำหนดเองตาม อายุ เพศ ความสนใจ และพฤติกรรม
Custom Audience คือกลุ่มลูกค้าเก่า หรือคนที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับเพจ/เว็บไซต์
Lookalike Audience คือกลุ่มคนใหม่ที่มีลักษณะคล้ายกับลูกค้าปัจจุบัน

Q3: Retargeting สำคัญกับธุรกิจ eCommerce จริงหรือ?
A: สำคัญมาก เพราะคนที่เคยเข้าชมเว็บไซต์หรือดูสินค้าอยู่แล้วมีโอกาสซื้อสูง การยิง Retargeting จะช่วยเพิ่มยอดขายและโอกาสปิดการขาย

Q4: ต้องทำ A/B Testing ทุกแคมเปญไหม?
A: แนะนำค่ะ เพราะจะช่วยให้คุณรู้ว่ากลุ่ม Target หรือ Creative แบบไหนทำงานดีที่สุด และสามารถปรับปรุงแคมเปญให้แม่นยำมากขึ้น

Q5: ถ้าไม่รู้ว่าลูกค้าเป็นใคร ควรเริ่มยังไง?
A: เริ่มจากวิเคราะห์ลูกค้าปัจจุบันและสินค้าของคุณ กำหนดอายุ เพศ ความสนใจ และพฤติกรรม จากนั้นลองยิง Ads เล็ก ๆ เพื่อเก็บข้อมูล ก่อนขยาย Target ให้กว้างขึ้น

 

ต้องการยิง Facebook Ads ให้ตรงกลุ่มลูกค้าและเพิ่มยอดขาย?

ทีมงาน Digital Agency Bangkok พร้อมช่วยคุณตั้ง Target Audience อย่างมือโปร ให้โฆษณาของคุณเข้าถึงลูกค้าที่สนใจจริง ๆ ทั้งลูกค้าเก่าและกลุ่มลูกค้าใหม่ เราวางกลยุทธ์ Ads ตั้งแต่การเลือกกลุ่มเป้าหมาย การสร้างคอนเทนต์โฆษณา ไปจนถึงการวิเคราะห์ผลลัพธ์ เพื่อให้ทุกแคมเปญโฆษณา คุ้มค่าและได้ผลลัพธ์ชัดเจน

สนใจทำ Facebook Marketing พร้อม Ads ติดต่อเราเลย!

โทร: 098-7655-243 หรือ 098-7655-701

อีเมล: [email protected]

Line Whatsapp