เคล็ด(ไม่)ลับ สำหรับการตลาดออนไลน์ที่ดึงดูดใจคนทุกเจเนอเรชัน

เคล็ด(ไม่)ลับ สำหรับการตลาดออนไลน์ที่ดึงดูดใจคนทุกเจเนอเรชัน

ในยุคที่ดิจิตัลเป็นเรื่องจำเป็นในการใช้ชีวิต โดยเฉพาะในด้านการตลาด แต่ในปัจจุบันก็มีผู้คนหลากหลายช่วงวัย การที่จะทำการตลาดให้เข้าถึงทุกเจเนอเรชั่นนั้นก็เป็นเรื่องที่ยากไม่ต่างกัน ทั้งในด้านความสนใจและพฤติกรรม เพราะแบบนั้นเราจึงควรวางแผนการตลาดให้เหมาะกับกลุ่มอายุ โดยบทความนี้จะกล่าวถึงวิธีการเอาชนะใจคนใน 5 generations ได้แก่ baby boomers, Gen X, Gen Y (Millennials), Gen Z และ Gen Alpha

Baby Boomers (1946 – 1964)

Baby Boomers คือบุคคลที่เกิดหลังยุคสงครามโลกครั้งที่สอง พวกเขาเติบโตมาในยุคที่สื่อดั้งเดิม เช่น โทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์ ทำให้พวกเขามีความคุ้นเคยและไว้วางใจสื่อเหล่านี้มากกว่าสื่อออนไลน์ แม้จะเริ่มเปิดรับสื่อออนไลน์มากขึ้น แต่ก็ยังคงชอบความเรียบง่ายของสื่อยุคเก่า

• เน้นการใช้ Facebook และ Email Marketing : กลุ่ม Baby Boomers ใช้ Facebook เป็นจำนวนมาก และยังนิยมรับข้อมูลผ่านอีเมล ดังนั้นการโฆษณาบน Facebook และการส่งอีเมลพร้อมข้อเสนอหรือข้อมูลที่ชัดเจน จะช่วยเพิ่มการรับรู้และสร้างความสัมพันธ์กับแบรนด์ อีกทั้งควรสร้างแคมเปญอีเมลที่ชัดเจน มีความน่าเชื่อถือ และมอบข้อเสนอที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของพวกเขา เช่น โปรโมชั่นเกี่ยวกับสุขภาพ การท่องเที่ยว หรือบริการที่เป็นประโยชน์
• สร้างเนื้อหาที่ชัดเจนและเน้นคุณค่า : ควรทำเนื้อหาที่เน้นประโยชน์และคุณค่าของสินค้าอย่างชัดเจน พร้อมมีรีวิวหรือข้อมูลจากประสบการณ์จริง เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจ เนื่องจากกลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับคุณค่าของผลิตภัณฑ์หรือบริการมากกว่าเนื้อหาที่เน้นความทันสมัย
• สร้างประสบการณ์ออนไลน์ที่เข้าใจง่าย : ออกแบบเว็บไซต์และแพลตฟอร์มออนไลน์ให้ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน เพื่อให้ Baby Boomers สามารถเข้าถึงข้อมูลและทำธุรกรรมได้สะดวก เช่น การใช้ตัวอักษรขนาดใหญ่ ปุ่มกดที่ชัดเจน และการจัดวางเนื้อหาที่เป็นระเบียบ รวมถึงวิดีโอสั้นๆ ที่ให้ข้อมูลชัดเจน เพื่อให้การใช้งานสะดวกและเข้าใจได้ง่าย
• ให้การสนับสนุนลูกค้าที่ดี : บริการลูกค้าที่ดีและตอบสนองรวดเร็ว เช่น การตอบคำถามหรือการให้คำแนะนำ จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและเพิ่มโอกาสในการซื้อซ้ำ

Generation X (1965-1980)

Gen X เป็นกลุ่มคนที่เติบโตมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและเศรษฐกิจอย่างชัดเจน ทำให้พวกเขามีความยืดหยุ่นและเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ได้ดี พวกเขามีความเป็นอิสระและพึ่งพาตนเองได้โดยมีความต้องการที่มุ่งเน้นไปที่ความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน พวกเขามักจะไม่เชื่อในข้อความทางการตลาด และมักจะค้นคว้าข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนตัดสินใจซื้อ

• • เน้นความตรงไปตรงมา : สื่อสารข้อความที่ชัดเจนและตรงประเด็น ไม่เยิ่นเย้อหรือใช้ภาษาที่ซับซ้อนเกินไป เน้นการนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์และเกี่ยวข้องกับความต้องการของพวกเขา
  • รีวิวและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ : Gen X ให้ความสำคัญกับข้อมูลที่เชื่อถือได้ การมีรีวิวจากผู้เชี่ยวชาญหรือบล็อกโพสต์ที่มีข้อมูลลึกซึ้ง สามารถดึงดูดพวกเขาให้มาเลือกซื้อสินค้าหรือบริการของคุณ
  • ความสะดวกในการใช้งานบนอุปกรณ์ทุกประเภท : Gen X เป็นกลุ่มที่ใช้อินเทอร์เน็ตทั้งบนคอมพิวเตอร์และมือถือ เว็บไซต์และแอปพลิเคชันจึงควรออกแบบให้ใช้งานง่ายและตอบสนองได้ดีบนทุกอุปกรณ์ เพื่อให้พวกเขาเข้าถึงข้อมูลหรือสินค้าของคุณได้ง่าย
  • เน้นไปที่กลยุทธ์ SEO : กลุ่ม Gen X เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญและมีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน เนื่องจากกลุ่มนี้มักค้นหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า โดยเฉพาะสินค้าหรือบริการที่ต้องใช้การพิจารณาหรือมีรายละเอียดเยอะ เช่น การลงทุน ท่องเที่ยว หรือสินค้าด้านเทคโนโลยี ทั้งจากพฤติกรรมการค้นหาข้อมูล และการความเชื่อมั่นในเว็บไซต์ที่ติดอันดับดี

Generation Y หรือ Millennials (1981-1996)

Millennials หรือ Gen Y เป็นกลุ่มคนที่คุ้นเคยกับการใช้โซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชันต่างๆ ในชีวิตประจำวัน พวกเขาให้ความสำคัญกับไลฟ์สไตล์ที่สะท้อนตัวตน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบตกแต่งบ้าน หรือข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวต่างๆ โดยจะนิยมเป็นสไตล์มินิมอล ที่เน้นความเรียบง่ายมากกว่าความหรูหรา พวกเขาให้ความสำคัญกับความถูกต้องและมีแนวโน้มที่จะซื้อจากแบรนด์ที่มีความสอดคล้องกับค่านิยมของพวกเขา

• การตลาดบนโซเชียลมีเดีย : Gen Y ใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางหลักในการสื่อสารและค้นหาข้อมูล ทำให้แพลตฟอร์มอย่าง Instagram, Facebook, TikTok, และ YouTube กลายเป็นพื้นที่สำคัญในการทำการตลาด ควรสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจ ทันสมัย และมีส่วนร่วม เช่น วิดีโอ แคมเปญไวรัล หรืออินฟลูเอนเซอร์มาร์เก็ตติ้ง
• ความยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อสังคม : Gen Y ให้ความสำคัญกับแบรนด์ที่มีจริยธรรมและมีความรับผิดชอบต่อสังคม พวกเขามักจะเลือกสนับสนุนธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมหรือการพัฒนาเพื่อสังคม ดังนั้นการนำเสนอกลยุทธ์ที่เน้นความรับผิดชอบหรือความยั่งยืนจะช่วยเพิ่มความสนใจ
• การใช้มือถือเป็นหลัก : เนื่องจาก Gen Y ใช้มือถือเป็นหลักในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต เว็บไซต์ที่รองรับการใช้งานบนมือถือและมีการโหลดที่รวดเร็วจะช่วยให้คุณเข้าถึงพวกเขาได้ดีขึ้น รวมถึงการใช้แอปพลิเคชันหรือการทำโฆษณาบนมือถือ เช่น การส่งข้อความหรือการใช้แอปพลิเคชันเฉพาะกลุ่ม
• กิจกรรมทางออนไลน์ที่สร้างสรรค์ : ใช้คอนเทนต์ที่สร้างสรรค์และมีส่วนร่วม เช่น วิดีโอสั้น หรือ เกม ที่ทำให้ผู้ชมได้มีส่วนร่วมและแชร์ประสบการณ์ การสร้างแคมเปญที่ให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในการออกแบบหรือตัดสินใจเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสน

Generation Z (1997-2012)

Gen Z เป็นกลุ่มที่เกิดและเติบโตในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง พวกเขาคุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียเป็นอย่างดี ทำให้พวกเขามีความคาดหวังสูงในการรับข้อมูลที่รวดเร็วและเนื้อหาที่เป็นของแท้ อีกทั้งพวกเขายังมีความคิดสร้างสรรค์ในการแสดงออกถึงความเป็นตัวเอง พวกเขาให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวและการควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

• เน้นความเป็นส่วนตัว : เคารพความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้และให้ความสำคัญกับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล หลีกเลี่ยงการเก็บข้อมูลที่ไม่จำเป็น และให้ผู้ใช้สามารถควบคุมข้อมูลของตนเองได้
• ใช้ Influencer Marketing : ร่วมมือกับ Influencer ที่เป็นที่นิยมในกลุ่ม Gen Z และมีสไตล์ที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ เพื่อโปรโมตสินค้าหรือบริการ สร้างคอนเทนต์ที่สั้น กระชับ และน่าสนใจ โดยใช้ภาษาที่เป็นกันเองและตรงไปตรงมา เนื่องจากคนกลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับความเห็นและคำแนะนำจากอินฟลูเอนเซอร์ที่พวกเขาติดตามมากกว่าโฆษณาที่ดูเป็นทางการเกินไป
• การใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เป็นที่นิยม : Gen Z นิยมใช้แพลตฟอร์มอย่าง TikTok, Instagram Reels และ YouTube ซึ่งเน้นเนื้อหาวิดีโอสั้นๆ ที่มีความสนุกสนานและดึงดูดความสนใจในช่วงเวลาสั้นๆ ดังนั้น การสร้างเนื้อหาวิดีโอที่ไวรัล หรือการใช้ครีเอเตอร์/อินฟลูเอนเซอร์ในการโปรโมตแบรนด์ จะช่วยเชื่อมต่อกับพวกเขาได้ง่ายขึ้น
• การใช้เนื้อหาวิดีโอและการเล่าเรื่องสั้นๆ (Short-form Video Content & Storytelling) : Gen Z ชอบการรับข้อมูลที่เร็วและมีพลัง ดังนั้นควรสร้างวิดีโอสั้นๆ ที่ดึงดูดความสนใจตั้งแต่ไม่กี่วินาทีแรก และเน้นการเล่าเรื่องที่กระชับแต่มีความหมาย โดยการใช้เสียงหรือเทรนด์ที่กำลังเป็นกระแสก็ช่วยให้เนื้อหาของคุณเป็นที่นิยมมากขึ้น

Generation Alpha (2013-ปัจจุบัน)

เป็นกลุ่มที่เกิดและเติบโตในยุคที่เทคโนโลยีมีความก้าวหน้าอย่างมาก พวกเขาคุ้นเคยกับการใช้อุปกรณ์ดิจิทัลตั้งแต่เด็ก และมีความสนใจในเนื้อหาที่หลากหลาย ทั้งวิดีโอสั้น เกมส์ และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ

• คอนเทนต์แบบโต้ตอบและเนื้อหาที่เป็นมิตรกับครอบครัว : Gen Alpha มีพ่อแม่ที่เป็นคนรุ่น Millennials ซึ่งมักจะคัดกรองเนื้อหาสำหรับลูก ๆ ดังนั้น การสร้างเนื้อหาที่เป็นมิตรกับครอบครัวและมีการโต้ตอบ เช่น วิดีโอการเรียนรู้ เกมเสริมทักษะ หรือแอปที่พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ จะดึงดูดความสนใจของเด็กกลุ่มนี้ได้ดี
• เน้นแพลตฟอร์มที่พวกเขาใช้ : Gen Alpha มีแนวโน้มใช้งานแพลตฟอร์มอย่าง YouTube Kids, TikTok, Roblox, Minecraft, และแพลตฟอร์มเกมอื่น ๆ เป็นหลัก การตลาดจึงควรเจาะจงไปที่การโฆษณาในแพลตฟอร์มเหล่านี้ ซึ่งเหมาะกับลักษณะการใช้งานของพวกเขา
• การตลาดที่เน้นการศึกษาและพัฒนาทักษะ : เด็กในยุคนี้มีความสนใจในเนื้อหาที่เสริมสร้างการเรียนรู้และทักษะเฉพาะตัว การนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา เช่น แอปเรียนรู้ เกมเสริมทักษะ หรือคอร์สออนไลน์แบบโต้ตอบ จะสามารถเข้าถึง Gen Alpha ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• โซเชียลมีเดียผ่านพ่อแม่ : แม้ Gen Alpha เองอาจยังไม่มีบัญชีโซเชียลมีเดียของตัวเอง แต่พวกเขามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของพ่อแม่ ดังนั้น การทำการตลาดที่เน้นไปที่ผู้ปกครองผ่านโซเชียลมีเดียอย่าง Instagram หรือ Facebook จะช่วยสร้างการรับรู้และเชื่อมโยงกับครอบครัวได้ดี

โดยสรุปแล้ว แม้การทำการตลาดให้เหมาะกับทุกกลุ่มเป้าหมายจะมีความยากและท้าทาย แต่หากเราจับประเด็นได้ถูกจุดมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากอีกต่อไป แต่ก็ยังเป็นที่ยอมรับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่า โซเชียลมีเดียมีความสำคัญกับคนในทุกเจเนอเรชั่น ทั้งในการใช้ขีวิตประจำวันและในด้านการบันเทิง ดังนั้นเรจึงควรทำความเข้าใจถึงค่านิยม ความสนใจ และพฤติกรรมของแต่ละกลุ่ม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขาได้อย่างแท้จริง