เราคือผู้เชี่ยวชาญด้านบริการพัฒนาเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโต
เราเป็นเอเจนซี่พัฒนาและออกแบบเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซชั้นนำในประเทศไทย ที่ทุ่มเทในการให้บริการและคำปรึกษาสำหรับการตลาดอีคอมเมิร์ซแบบครบวงจรสำหรับธุรกิจต่างๆ
เป้าหมายของเราคือการช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จในตลาดดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มที่เป็นนวัตกรรม ปรับขนาดได้ และเน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง
เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ คืออะไร ?
เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซเป็นแพลตฟอร์มการขายออนไลน์ยอดนิยมในประเทศไทย ซึ่งทำหน้าที่เป็นช่องทางการสื่อสารระหว่างธุรกิจและลูกค้า เป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพในการเติบโตของธุรกิจ ขยายฐานลูกค้า และเพิ่มยอดขายออนไลน์
ยกตัวอย่างตลาดยอดนิยมในไทยก็เช่น Shopee และ Lazada นั่นหมายความว่าหากธุรกิจของคุณมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง จะทำให้ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตสามารถเข้าถึงร้านค้าของคุณได้ทุกที่ทุกเวลา
คุณสมบัติของเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของเรา
เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของเราในประเทศไทยมีคุณสมบัติที่สำคัญ ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จบนโลกออนไลน์ ตั้งแต่การจัดการผลิตภัณฑ์อย่างราบรื่นไปจนถึงช่องทางการชำระเงินที่ปรับให้เข้ากับท้องถิ่น แพลตฟอร์มของเราช่วยให้คุณมีเครื่องมือทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับความสำเร็จในตลาดดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในประเทศไทย
การจัดการผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพเพื่อความสำเร็จในการตลาดยุคดิจิตอลของคุณ
- การเพิ่มสินค้า : ใช้ฟีเจอร์นี้เพื่อเพิ่มสินค้าลงในร้าน WooCommerce ของคุณ โดยสามารถกรอกรายละเอียดสินค้า เช่น รูปภาพ, ราคา, และการสต็อกสินค้า ไม่ว่าคุณจะขายสินค้าในประเทศไทยหรือทั่วโลก คุณก็สามารถสร้างรายจากการขายสินค้าที่ตรงกลุ่มเป้าหมายของคุณได้อย่างง่ายดาย
- การนำเข้า : เครื่องมือการนำเข้าช่วยให้คุณสามารถอัปโหลดสินค้าจำนวนมากผ่านไฟล์ CSV ซึ่งช่วยประหยัดเวลาเป็นอย่างมาก เมื่อคุณต้องการเพิ่มสินค้าหลายรายการในคราวเดียว เหมาะสำหรับธุรกิจในประเทศไทยที่มีสินค้าคงคลังจำนวนมาก หรือสำหรับธุรกิจที่ต้องการขยายตลาดออนไลน์อย่างรวดเร็ว
- การส่งออก : ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณส่งออกข้อมูลสินค้าเป็นไฟล์ CSV เพื่อการสำรองข้อมูลหรือการวิเคราะห์ ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับธุรกิจในประเทศไทยที่ต้องการแชร์แคตตาล็อกสินค้ากับผู้จำหน่ายในท้องถิ่น หรือต้องการอัปเดตรายการสินค้าบนแพลตฟอร์มต่างๆ
- ส่วนของสินค้า จะแสดงรายการสินค้าทั้งหมดในร้านของคุณ พร้อมข้อมูลสำคัญ เช่น จำนวนการสต็อกสินค้า, ราคาที่แสดงในหน่วยบาทไทย (THB), และหมวดหมู่สินค้า ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การจัดการสินค้าสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยเป็นเรื่องง่าย อีกทั้งยังช่วยให้คุณติดตามสต็อกและการตั้งราคาได้อย่างสะดวก
ในขั้นตอนนี้ของ WooCommerce จะช่วยให้คุณจัดการสินค้าทั้งหมดของคุณได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มสินค้าใหม่, ติดตามสต็อกสินค้า, และจัดหมวดหมู่สินค้า คุณยังสามารถนำเข้า, ส่งออก, และกรองสินค้าต่างๆ เพื่อให้การจัดการเป็นเรื่องที่สะดวกยิ่งขึ้น
ทำความเข้าใจการจัดการคำสั่งซื้อใน WooCommerce: ติดตามสถานะและรายละเอียด
กรอบสีแดงหมายเลข 1
กรอบนี้แสดงภาพรวมของสถานะคำสั่งซื้อในระบบทั้งหมด โดยแบ่งเป็นหมวดหมู่ตามสถานะการดำเนินการ (เช่น Processing, Completed, และ Cancelled) ช่วยให้ผู้ดูแลสามารถเห็นจำนวนคำสั่งซื้อในแต่ละสถานะได้ง่ายว โดยมีการแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่าง ๆ ดังนี้:
- All : แสดงจำนวนคำสั่งซื้อทั้งหมดในระบบ ไม่ว่าคำสั่งซื้อนั้นจะอยู่ในสถานะใด โดยรวมทุกคำสั่งซื้อที่กำลังดำเนินการ สำเร็จแล้ว และที่ถูกยกเลิก
- Processing : แสดงจำนวนคำสั่งซื้อที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ เช่น การเตรียมจัดส่งหรือการชำระเงินที่ยังไม่เสร็จสิ้น คำสั่งซื้อเหล่านี้ยังไม่ได้ถูกส่งไปยังลูกค้าหรือรอการยืนยันการชำระเงิน
- Completed : แสดงจำนวนคำสั่งซื้อที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว หมายถึงคำสั่งซื้อที่ได้รับการจัดส่งหรือชำระเงินเรียบร้อย ซึ่งไม่ต้องการการดำเนินการเพิ่มเติม
- Cancelled : แสดงจำนวนคำสั่งซื้อที่ถูกยกเลิก ไม่ว่าจะเป็นจากฝั่งลูกค้าหรือผู้ขาย คำสั่งซื้อเหล่านี้จะไม่ได้รับการดำเนินการต่อ
กรอบนี้ช่วยให้ผู้ดูแลระบบมองเห็นจำนวนคำสั่งซื้อทั้งหมดและสถานะของคำสั่งซื้อได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการและติดตามคำสั่งซื้อในภาพรวมของร้านค้า
กรอบสีแดงหมายเลข 2
กรอบนี้แสดงรายละเอียดของคำสั่งซื้อแต่ละรายการ โดยมีข้อมูลเชิงลึก เช่น หมายเลขคำสั่งซื้อ วันที่ทำการสั่งซื้อ สถานะ และจำนวนเงิน เป็นต้น ซึ่งช่วยในการติดตามและจัดการคำสั่งซื้อเฉพาะแต่ละรายการ ดังนี้:
- Order: หมายเลขคำสั่งซื้อหรือ ID ที่ถูกสร้างขึ้นโดยระบบ เพื่อระบุตัวตนของคำสั่งซื้อนั้น ๆ
- Invoice Number: หมายเลขใบแจ้งหนี้ที่เชื่อมโยงกับคำสั่งซื้อ ซึ่งสามารถใช้สำหรับอ้างอิงในการชำระเงินและตรวจสอบการซื้อขาย
- Date: วันที่คำสั่งซื้อถูกสร้างหรือวันที่เริ่มต้นการดำเนินการ ซึ่งช่วยให้สามารถดูเวลาที่คำสั่งซื้อเกิดขึ้น
- Status: สถานะของคำสั่งซื้อแต่ละรายการ เช่น "Processing" หมายถึงคำสั่งซื้อที่กำลังดำเนินการ หรือ "Completed" หมายถึงคำสั่งซื้อที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว
- Billing: วิธีการชำระเงินที่ลูกค้าใช้ในการสั่งซื้อ เช่น "Online Pay" หรือ "Cash on delivery" ช่วยให้ผู้ดูแลระบบรู้ว่าการชำระเงินเป็นแบบใด
- Total: จำนวนเงินรวมของคำสั่งซื้อ ซึ่งแสดงยอดที่ต้องชำระสำหรับคำสั่งซื้อนั้น ๆ
- Export Status: สถานะการส่งออกข้อมูลคำสั่งซื้อ แสดงว่าได้มีการส่งออกคำสั่งซื้อนั้นไปในรูปแบบไฟล์หรือยัง ซึ่งมักใช้สำหรับการวิเคราะห์หรือจัดการข้อมูลเพิ่มเติม
ช่องทางการชำระเงินที่ปรับปรุงใหม่เพื่อธุรกรรมที่ราบรื่น
- คำสั่งซื้อ : ส่วนนี้จะเป็นการสรุปรายการสินค้าที่ลูกค้าได้ทำการสั่งซื้อ โดยจะแสดงชื่อสินค้า จำนวน และราคา ซึ่งราคาจะแสดงในสกุลเงินบาท (฿) เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจได้อย่างชัดเจน โดยคำสั่งซื้อนี้จะแสดงรายการสินค้าที่เลือกทั้งหมดก่อนที่จะคำนวณค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม เช่น ค่าจัดส่ง
- ยอดรวมย่อย : ยอดรวมย่อยจะแสดงราคาสินค้าทั้งหมดก่อนที่จะมีการเพิ่มค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม เช่น ค่าจัดส่ง
- ค่าจัดส่ง : ค่าจัดส่งจะแสดงเป็นอัตราเดียว ซึ่งเป็นตัวเลือกทั่วไปสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย ช่วยให้การจัดส่งภายในประเทศเป็นไปอย่างโปร่งใส
- ยอดรวม : นี่คือยอดเงินสุดท้ายที่รวมทั้งราคาสินค้าและค่าจัดส่งแล้ว ซึ่งคำนวณในสกุลเงินบาท (฿) ทำให้ลูกค้าเข้าใจยอดที่ต้องชำระได้ง่ายดายยิ่งขึ้น
- ช่องทางการชำระเงิน : ลูกค้าสามารถเลือกการชำระเงินปลายทาง (ซึ่งเป็นตัวเลือกที่นิยมในประเทศไทย) หรือชำระเงินออนไลน์ผ่านธนาคารไทยที่เชื่อถือได้ เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และธนาคารกสิกรไทย (K+), ซึ่งมีความปลอดภัยและความสะดวกในการชำระเงิน
ในขั้นตอนนี้จะแสดงการสรุปคำสั่งซื้อของลูกค้า รวมถึงชื่อสินค้า จำนวน ราคาในสกุลเงินบาท และค่าจัดส่ง ลูกค้าสามารถเลือกวิธีการชำระเงินได้สองแบบ คือ ชำระเงินปลายทาง หรือ ชำระเงินออนไลน์ โดยสามารถชำระผ่านธนาคารในไทยที่ได้รับความนิยม เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และธนาคารกสิกรไทย เพื่อทำให้การทำธุรกรรมออนไลน์สะดวกมากยิ่งขึ้น
แปลงข้อมูลให้เป็นข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปใช้ได้
รายงานการขาย ใน WooCommerce เป็นการสรุปตัวชี้วัดที่สำคัญ เช่น ยอดขายรวม ค่าเฉลี่ยของจำนวนคำสั่งซื้อ และจำนวนการทำธุรกรรม รวมถึงการระบุสินค้าที่ขายดี และเพื่อการตัดสินใจอย่างมีข้อมูลเพื่อส่งเสริมการเติบโตและเพิ่มกำไรในการทำธุรกิจ
ภาพรวมของการวิเคราะห์ WooCommerce ในเดือนตุลาคม 2024 เน้นไปที่ตัวชี้วัดสำคัญ เช่น ยอดขายรวม จำนวนคำสั่งซื้อ และจำนวนสินค้าที่ขายได้ เพื่อเก็บเป็นข้อมูลเชิงลึกสำหรับการติดตามผลการดำเนินงานและการตัดสินใจ
เครื่องมือทางการตลาดอันทรงพลังเพื่อความสำเร็จทางธุรกิจ
คุณสามารถจัดการการตลาดของคุณได้โดยตรงผ่าน WooCommerce ตั้งแต่การขยายช่องทางการขาย เช่น Google และ Pinterest ไปจนถึงการเปิดตัวแคมเปญที่มุ่งเป้า โดยเครื่องมือที่มีใน WooCommerce ช่วยให้ธุรกิจในประเทศไทยสามารถขยายการเข้าถึงในโลกออนไลน์และเพิ่มยอดขายได้โดยไม่ต้องใช้แพลตฟอร์มภายนอก เพียงแค่ตั้งค่าและจัดการทุกอย่างในที่เดียวคือเว็บไซต์ เพื่อให้การตลาดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและไม่ยุ่งยาก
เสริมพลังให้ลูกค้าของคุณด้วยการออกแบบที่เป็นมิตรต่ออุปกรณ์เคลื่อนที่
- การออกแบบที่ตอบสนองต่ออุปกรณ์ทุกชนิด : WooCommerce ได้รับการออกแบบให้มีความตอบสนองเต็มรูปแบบ หมายความว่าร้านค้าของคุณจะทำงานได้ดีบนอุปกรณ์มือถือและแท็บเล็ต
- แอปมือถือ : จัดการร้านค้าของคุณได้ทุกที่ทุกเวลากับแอปมือถือ WooCommerce ที่มีให้ใช้งานทั้งบน iOS และ Android
ขยายร้านค้าของคุณด้วยส่วนขยายและส่วนเสริมอันทรงพลัง
- ส่วนขยาย WooCommerce : มีส่วนขยายที่หลากหลายทั้งจากทางการและของบุคคลที่สามให้เลือกใช้เพื่อขยายฟังก์ชันการทำงาน (เช่น การเป็นสมาชิก, การสมัครสมาชิก, ระบบการจอง เป็นต้น)
- การเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันของบุคคลที่สาม : WooCommerce สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันอื่น ๆ เช่น ระบบ CRM ซอฟต์แวร์บัญชี โซลูชันการจัดส่ง และเครื่องมือการตลาด
เพิ่มการมองเห็นด้วยกลยุทธ์ SEO ขั้นสูง
- เป็นมิตรกับ SEO : WooCommerce ถูกสร้างขึ้นด้วยโค้ดที่สะอาดและได้รับการปรับแต่งเพื่อ SEO โดยเฉพาะ และสามารถทำงานได้ดีร่วมกับปลั๊กอิน SEO ของ WordPress เช่น Yoast SEO หรือ Rank Math
- URL แบบกำหนดเอง : สร้าง URL สินค้า ที่เป็นมิตรกับ SEO เพื่อช่วยในการจัดอันดับในเครื่องมือค้นหา
ประโยชน์ของการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซ มีอะไรบ้าง ?
- หน้าร้านออนไลน์ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน : ร้านของคุณจะเปิดตลอด 24 ชั่วโมงและเปิดได้ทุกวัน ตลอดทั้งปี ไม่เว้นวันหยุด!
- เพิ่มการเข้าถึงลูกค้าที่มีศักยภาพ : ด้วยร้านค้าออนไลน์ ธุรกิจของคุณสามารถเข้าถึงลูกค้าทุกที่ทั่วโลกได้
- เพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า : ผู้บริโภคของคุณสามารถสั่งซื้อสินค้าและบริการได้ทุกเมื่อที่ต้องการ
ราคาการบริการการตลาดอีคอมเมิร์ซ ในประเทศไทย
ราคาบริการพัฒนาเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซในประเทศไทย
แม้ว่าเราจะเป็นบริษัทพัฒนาเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่เก่ง แต่แพ็คเกจพัฒนาเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของเรามีราคาเริ่มต้นเพียง 39,500 บาท โดยมีคุณสมบัติครบครันที่จะช่วยให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณเติบโตได้
คุณจะเพลิดเพลินไปกับหน้าเว็บไซต์ พื้นที่ดิสก์ และแบนด์วิดท์ไม่จำกัด พร้อมด้วยบัญชีอีเมล 8 บัญชีสำหรับการติดต่อสื่อสารอย่างมืออาชีพ
ฟังก์ชั่นหลักของอีคอมเมิร์ซ ได้แก่ การกรองและค้นหาสินค้า, ระบบตะกร้าสินค้าที่มีประสิทธิภาพ, บัญชีผู้ใช้ และการแชทสดผ่าน Facebook Messenger หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ
การชำระเงิน สามารถชำระเงินได้ผ่าน PayPal ,โอนเงินผ่านธนาคาร หรือชำระเงินปลายทาง
ฟังชั่นก์เพิ่มเติม ได้แก่ โปรแกรมนับผู้เยี่ยมชม, การออกแบบเว็บไซต์แบบมาตรฐาน, แผนที่ที่ตั้ง SEO และการผสานรวมโซเชียลมีเดีย
แพ็คเกจนี้ยังรวมถึงการออกแบบที่สามารถทำให้เว็บไซต์ของคุณตอบสนองได้ดีผ่านมือถือและแท็ปเล็ต, การผสานรวม CMS พร้อมการฝึกอบรมการใช้งาน และการอัปเดตข้อมูลฟรี 6 ครั้งตลอดทั้งปี
แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย (เว็บไซต์หรือแอพลิเคชั่น)
เนื่องจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของประเทศไทยยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธุรกิจต่างๆ เริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการมีตัวตนบนอินเทอร์เน็ตมากขึ้นเรื่อยๆ
โดยที่ บริษัท ดิจิตอล เอเจนซี่ แบงค็อก จำกัด เรามีบริการพัฒนาเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่ครอบคลุมซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยส่งเสริมธุรกิจของคุณให้เติบโตไปได้อย่างต่อเนื่อง หากคุณร่วมงานกับเรา คุณจะสามารถเข้าถึงบริการที่จำเป็นต่างๆได้มากมาย ที่จะช่วยปรับปรุงและกระตุ้นยอดขายให้กับร้านค้าออนไลน์ของคุณ
ระบวนการทำงานของเราสำหรับ บริการพัฒนาเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
1. การปรึกษาหารือและการรวบรวมความต้องการ
ในขั้นตอนนี้, เราจะทำงานร่วมกับคุณอย่างใกล้ชิดเพื่อทำความเข้าใจในความต้องการและวัตถุประสงค์ทางธุรกิจของคุณ โดยเราจะประเมินเป้าหมาย และกลุ่มเป้าหมาย และเราจะทำการรวบรวมข้อมูลเชิงลึกอย่างละเอียด
เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ที่เราสร้างจะสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของคุณอย่างเต็มที่ ส่งผลให้เกิดแพลตฟอร์มที่ปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณ
2. การออกแบบและการพัฒนา UX/UI
ในขั้นตอนนี้, เราจะรวบรวมความต้องการของคุณและสร้างดีไซน์เบื้องต้น เพื่อให้คุณมองเห็นภาพรวมเกี่ยวกับรูปลักษณ์และการทำงานของเว็บไซต์ของคุณ โดยเราจะมุ่งเน้นไปที่การจัดวางที่ใช้งานง่าย และความสอดคล้องกับแบรนด์ รวมถึงฟังก์ชันการทำงานที่ดีที่สุด
เพื่อช่วยให้แน่ใจว่าทุกสิ่งที่เราทำจะสอดคล้องกับความต้องการทางธุรกิจของคุณ และเปิดโอกาสให้คุณให้ข้อเสนอแนะเพื่อนำไปสู่การแก้ไขที่ดีขึ้นได้ก่อนที่จะดำเนินการพัฒนาเต็มรูปแบบ
3. การพัฒนาและการรวมระบบ
เราจะเปลี่ยนจากการออกแบบให้กลายเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่สามารถใช้งานได้จริง โดยทีมพัฒนาของเราจะสร้างเว็บไซต์ที่คุณสามารถมั่นใจได้ว่าจะสอดคล้องกับการออกแบบที่ตกลงกันไว้และรวมฟีเจอร์ที่จำเป็นทั้งหมด เช่น เกตเวย์การชำระเงิน ระบบสินค้าคงคลัง และการปรับให้เหมาะกับมือถือ
นอกจากนี้ เรายังรวมบริการจากบุคคลที่สาม เช่น เครื่องมือ CRM และแพลตฟอร์มการตลาด เพื่อเพิ่มฟังก์ชันการทำงานของเว็บไซต์
4. การทดสอบและการประกันคุณภาพ
เป็นขั้นตอนสำคัญ, ที่เราจะประเมินแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่างเข้มงวดเพื่อให้แน่ใจว่ามันสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นในทุกด้าน
ซึ่งรวมถึงการทดสอบหาข้อผิดพลาด การตรวจสอบประสิทธิภาพในอุปกรณ์ต่างๆ และการตรวจสอบให้แน่ใจว่าฟีเจอร์ทั้งหมด เช่น เกตเวย์การชำระเงิน การจัดการสินค้าคงคลัง และการรวมระบบทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ
5. การเปิดตัวและการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง
เราจะจัดการการเปิดตัวเว็บไซต์ให้กับคุณ เพื่อให้แน่ใจว่าระบบทั้งหมดทำงานตามที่คาดหวัง ตั้งแต่การประมวลผลการชำระเงินไปจนถึงความตอบสนองบนมือถือ
หลังจากการเปิดตัว เราจะให้การตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง การอัปเดต และการสนับสนุนทางเทคนิคเพื่อตอบสนองต่อปัญหาที่เกิดขึ้น ปรับปรุงฟีเจอร์ และทำให้แน่ใจว่าแพลตฟอร์มทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จุดแข็งของเรา
จุดแข็งหลักของเราช่วยให้เราโดดเด่นในตลาดอีคอมเมิร์ซที่มีการแข่งขันในประเทศไทย
- บริการโฮสติ้งที่รวดเร็วและเชื่อถือได้ จำเป็นสำหรับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซทุกประเภท เพื่อให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นและมีการหยุดทำงานน้อยที่สุด
- ความเชี่ยวชาญในการเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์ผู้ใช้ การใช้แนวทางที่ดีที่สุดในการออกแบบและการใช้งานเพื่อสร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ราบรื่นและสนุกสนานให้กับผู้ใช้
- การปรับขนาดที่ตอบโจทย์สำหรับการเติบโตในอนาคต ความสามารถของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในการปรับตัวและขยายตัวตามการพัฒนาของธุรกิจของคุณ
- ความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบและการพัฒนาอีคอมเมิร์ซ ความเข้าใจในทั้งด้านความสวยงามและฟังก์ชันการทำงานของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
- ทีมงานในกรุงเทพฯ ที่รู้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตลาดในท้องถิ่น ทีมงานของเราใน บริษัท ดิจิติล เอเจนซี่ แบงค็อก จำกัด มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับภาพรวมอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย
- ทางเลือกที่ปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการทางธุรกิจของคุณ ความสามารถของเราในการปรับบริการอีคอมเมิร์ซให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณ เพราะเราเข้าใจว่าทุกธุรกิจมีเป้าหมาย และกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงความท้าทายในการดำเนินงานที่แตกต่างกัน
โดยหากคุณสนใจทำเว็บไซต์ อีคอมเมิร์ซกับเรา เราจะขอแนะนำบริการเด่นๆของเราดังนี้
- พัฒนาเว็บขายสินค้าออนไลน์ที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการ : ตอบโจทย์ที่เหมาะกับแบรนด์ของคุณและตอบสนองความต้องการของลูกค้า
- การปรับเว็บไซต์ให้ใช้งานได้ดีบนมือถือ : ทำให้คุณมั่นใจว่าเว็บไซต์ของคุณจะสามารถใช้งานได้ดีบนทุกอุปกรณ์ และส่งผลให้การมีส่วนร่วมของผู้ใช้ดีขึ้น
- การชำระเงินที่ปลอดภัย : ธุรกรรมที่ปลอดภัยสร้างความไว้วางใจกับลูกค้าของคุณ
- ระบบจัดการสินค้าคงคลังและคำสั่งซื้อ : ปรับปรุงการดำเนินงานเพื่อการติดตามสินค้าคงคลังและการจัดการคำสั่งซื้อที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- SEO และการตลาดดิจิทัลสำหรับอีคอมเมิร์ซ : กลยุทธ์ที่เพิ่มการมองเห็นและดึงดูดการเข้าชมจากกลุ่มเป้าหมาย
ด้วยความเชี่ยวชาญในการให้บริการอีคอมเมิร์ซภายในกรุงเทพฯ โดยเรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จในตลาดออนไลน์ที่มีการแข่งขันสูง ให้ บริษัท ดิจิตอล เอเจนซี่ แบงค็อก จำกัด เป็นพันธมิตรของคุณในการบรรลุความสำเร็จด้านอีคอมเมิร์ซ!